ก่อนไปเยี่ยมผู้ป่วยมะเร็งคุณควรเช็คให้แน่ใจก่อนว่า วันนั้นผู้ป่วยมีสภาพดีทั้งร่างกายและจิตใจ สามารถต้อนรับแขกได้ ไม่เหนื่อยหรือเพลียจนเกินไป เอาจริงๆชีวิตมนุษย์คีโมสองชั่วโมงนี้ดี แต่อีกสามชั่วโมงหน้าอาจจะแย่ก็ได้ การที่นัดกันล่วงหน้าเป็นอาทิตย์ แต่พอวันจริงอาจต้องถูกยกเลิกเพราะร่างกายไม่พร้อม นี่ถือว่าเป็นเรื่องปกติสำหรับมนุษย์คีโมมาก คนเยี่ยมโปรดเข้าใจนะจ๊ะ
และก่อนไปเยี่ยมคุณก็ควรรู้ข้อห้ามบางอย่างในการเยี่ยมผู้ป่วยด้วย เพื่อที่จะได้สบายใจทั้งคนเยี่ยมและคนถูกเยี่ยม
- ถ้าคุณเป็นหวัด ไอ หรือโรคติดต่อทางเดินหายใจ อย่ามาเยี่ยมผู้ป่วยเด็ดขาด เพราะคุณอาจทำให้ผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันต่ำอยู่แล้วติดได้ ยิ่งถ้ามนุษย์คีโมเป็นหวัด ในช่วงเม็ดเลือดขาวตก ร่างกายมีแต่ทรุดกับโทรม เผลอๆให้ยารอบต่อไปไม่ได้อีก
- อย่านำเรื่องทุกข์ใจไปเพิ่มให้ผู้ป่วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่คนอื่นพูดถึงผู้ป่วยในทางไม่ดี หรือ เรื่องปัญหาส่วนตัวของคุณเอง อะไรก็ตามที่คิดว่าพูดไปทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจแต่เป็นสิ่งที่คิดว่าทำให้ผู้ป่วยทุกข์ใจ คุณไม่ควรพูดไป แต่ถ้าผู้ป่วยยินดีที่จะให้คำปรึกษา นั่นเป็นสัญญานที่ดีสำหรับการเยี่ยมครั้งนี้เพราะคุณทำให้ผู้ป่วยรู้สึกว่าเขายังพอมีค่ากับคนรอบข้างบ้าง
- ไม่ควรใส่น้ำหอม หรือ ซื้อของที่เป็นกลิ่นน้ำหอม โดยเฉพาะของกินกลิ่นแรงๆไปเยี่ยมผู้ป่วย เพราะอาจทำให้เขายิ่งมีอาการพะอืดพะอมกว่าเดิม สิ่งที่ผู้ป่วยเคยชอบเคยดมอาจจะเปลี่ยนเป็นไม่ชอบเพราะเซนส์สัมผัสที่เปลี่ยนไป
- ไม่ควรเยี่ยมไข้และอยู่นานเกิน 1-2 ชั่วโมง เพราะผู้ป่วยอาจเพลียและเหนื่อยมากขึ้น
- ว่าด้วยเรื่องคำพูด
อย่าพูดเกินจริง หรือ อวยผู้ป่วยเกินไป เช่น เดี๋ยวก็หายไปเที่ยวได้แล้ว ทั้งๆที่ความจริงผู้ป่วยอาจอยู่ในช่วงประคับคองเท่านั้น อย่าพูดเปรียบเทียบ ว่าคนป่วยคนอื่นๆแข็งแรงดูดีเพราะกินอันนั้น หาหมอคนโน้น ทำอันนี้ ร่างกายแต่ละคนมีต้นทุนทางสุขภาพไม่เหมือนกัน และมีการตอบสนองต่อยาและอาหารไม่เหมือนกัน คุณอาจแค่เล่าเคสจริงที่เกิดขึ้นได้ แต่อย่าพยายามเปรียบเทียบเคสนั้นกับตัวผู้ป่วยเอง อย่าพูดแต่เรื่องของตัวเอง ว่าชีวิตตัวเองดีอย่างงั้นอย่างงี้ เพราะจะทำให้ผู้ป่วยบางคนรู้สึกแย่มากกว่ารู้สึกยินดีกับคุณ - การพาคนอื่นไปเยี่ยมไข้ด้วย โดยไม่บอกคนป่วยล่วงหน้าถือว่าเสียมารยาท ถ้าคุณจะพาแฟน หรือ เพื่อนของคุณมาด้วย คุณควรถามความสมัครใจของผู้ป่วยก่อน
- อย่าสอบถามเรื่องอาการป่วยมาก ให้ผู้ป่วยเล่าออกมาเองดีที่สุด ต้องแน่ใจว่าเขาสบายใจที่จะเล่า และไม่เซ้าซี้หรือแสดงอาการอยากรู้เกินไป
- อย่ายัดทัศนคติและความเชื่อของตัวเองให้ผู้ป่วย สิ่งที่คุณเชื่อว่าดี ยาและอาหารเสริมที่คุณได้ยินมา พระ คนทรงเจ้า หมอดู สิ่งที่คุณนับถือ สิ่งเหล่านี้ทำให้ ผู้ป่วยรู้สึกอึดอัดมากกว่า
- อย่าซื้ออะไรที่ผู้ป่วยกินไม่ได้แน่ๆมาเยี่ยม เช่น ส้มตำ ปลาร้า ซูชิ ถึงแม้จะเป็นของโปรดของผู้ป่วยก็ตาม และถ้าผู้ป่วยเป็นอะไรไป มีติดเชื้อจากอาหารที่คุณซื้อมาให้ อันนี้คุณจะโดนญาติเขาว่าแน่ๆ
- อย่ามาขายของ หรือ ยืมเงินคนป่วยเลย เพราะว่าแค่ป่วยก็ค่าใช้จ่ายเยอะอยู่แล้ว และเป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่รู้ด้วยว่าจะจบลงที่ยอดเท่าไหร่ ><
.
.
.
ไม่พลาดบทความดีๆและเรื่องจริงจากเหล่ามนุษย์คีโม ทั้งเรื่องค่าใช้จ่าย โรงพยาบาลที่รักษา วิธีปฎิบัติตัว พฤติกรรมเสี่ยงการเป็นมะเร็งของแต่ละคน ซึ่งเป็นเรื่องจริงที่หาไม่ได้ใน Google
โดยการกดถูกใจ FB Page :เรื่องจริงกะเบลล์ Jingabell
https://www.facebook.com/cancerfreeforever/
และเลือก เห็นโพสต์ก่อน ถ้าไม่เลือกปุ่มเห็นโพสต์ก่อนก็อาจจะพลาดเรื่องราวอื่นๆได้นะคะ ^_^
ขอบคุณค่ะ ^_____^